เพราะทุกชีวิตมีความหมาย ไม่ว่าจะยากดีมีจน
สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี หรือที่รู้จักกันดีในชื่อโรงพยาบาลเด็ก ซึ่งเปรียบเสมือนที่พึ่งแห่งสุดท้ายของพ่อแม่ที่มีลูกป่วย ร้อยละ 90 ของผู้ป่วยเด็กทั้งหมดได้รับการส่งต่อมาจากโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ เนื่องจากต้องได้รับการดูแลรักษาจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางโดยตรงจากทางสถาบันสุขภาพเด็กฯ
โรงพยาบาลไม่สามารถปฏิเสธการรับคนไข้ในนาทีวิกฤตได้ ผู้ป่วยกลุ่มนี้จึงจำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วนและใกล้ชิดโดยบุคคลากรทางการแพทย์สาขาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางหลากหลายสาขา พยาบาล เจ้าหน้าที่รังสี ฯลฯ
แม้ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐ แต่ยังไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้ป่วยเด็กที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปี อย่างไรก็ตามการเพิ่มจำนวนเตียงในหอผู้ป่วยเด็ก (ไอซียู) เพื่อรองรับผู้ป่วยเด็กวัย 1 เดือน ถึง 15 ปี เพียงอย่างเดียวก็ยังอาจไม่เพียงพอ เนื่องจากผู้ป่วยภาวะวิกฤติจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์มากมาย
คือ โครงการระดมทุนโดยมีเป้าหมายเพื่อ เพิ่มเตียงในหอผู้ป่วยเด็กวิกฤติ (ไอซียู) และครุภัณฑ์ทางแพทย์ชั้นสูง สำหรับผู้ป่วยเด็กภาวะวิกฤติ ให้มีโอกาสเข้าถึงการรักษาอย่างรวดเร็ว เท่าเทียม และทันท่วงที
สำหรับบางคน สิ่งเหล่านี้อาจเป็นเพียงเครื่องมือทางการแพทย์ แต่สำหรับผู้ป่วยเด็ก และพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กๆ เหล่านั้น สิ่งเหล่านี้คือเครื่องมือสร้างปาฏิหาริย์...
ในแต่ละวินาที มีผู้ป่วยเด็กจำนวนไม่น้อย จำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน ทุกวินาทีอาจหมายถึงชีวิต ทีมแพทย์และพยาบาล ทุ่มเทแรงกายแรงใจอย่างเต็มที่..
เพื่อให้เด็กน้อยมีลมหายใจได้นานที่สุด..
แต่คงจะดีกว่านี้ หากมีเครื่องมือทางการแพทย์ที่เพียงพอ เพราะบ่อยครั้งอาการของผู้ป่วยเด็กวิกฤติ มีความซับซ้อน จำเป็นต้องใช้เครื่องมือทางการแพทย์ขั้นสูง เพื่อต่อลมหายใจ
ได้แก่ สมอง หัวใจ ปอด ตับ ไต การติดเชื้อในกระแสโลหิต จากโรคภัยคุกคาม หรือได้รับอุบัติเหตุรุนแรง หลังผ่าตัดอวัยวะที่สำคัญ อาจต้องใช้ครุภัณฑ์อุปกรณ์การแพทย์พิเศษ อาทิ
เพราะ ปาฏิหารย์ เกิดขึ้นได้เสมอ แค่เพียงคุณ ให้โอกาส